Sustainable Coffee คืออะไร? จ่ายแพงกว่าแล้วช่วยได้จริงหรือ?

“Sustainability” คืออะไร และอะไรคือ  “sustainable coffee” ผมก็เหมือนพวกคุณนั่นแหละครับ ผมใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมแต่ว่าหลายครั้งที่ผมก็ไม่ได้แสดงหรือทำอะไรเพื่อช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมเลย ที่สำคัญคือผมใช้จ่ายเงินซื้อของไปโดยไม่ได้คิดถึงสิ่งแวดล้อมเลย ผมซื้อกาแฟที่เสิร์ฟมาในแก้วพลาสติก ผมรู้ว่าพลาสติกนั้นไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมแต่ผมไม่รู้จริงๆว่ากาแฟในแก้วนั้นมันกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง และนี่คือเค้าโครงคร่าวๆว่า “sustainable coffee” คืออะไรและมีความหมายต่อโลกที่คุณอยู่อย่างไร

Sustainable Coffee “กาแฟที่ยั่งยืน”

การรวมกันของมาตรฐานทางสังคมสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่ได้รับการตรวจสอบโดยบุคคลที่สามอย่างอิสระ

“sustainable coffee” เป็นศัพท์เกี่ยวกับการผลิตกาแฟเช่นเดียวกับคำศัพท์พวก  single-origin หรือ organic แต่คำว่า sustainable หรือแปลเป็นไทยว่า “ยั่งยืน” นั้นมีความหมายที่ครอบคลุมคำต่างๆมากมายและคอนเซ็บของมันก็ค่อนข้างซับซ้อนเลยทีเดียวครับ

ในการขายกาแฟนั้นแค่ผู้ผลิตติดคำว่า “ sustainable coffee” ลงไปบนผลิตภัณฑ์ก็ทำให้มียอดขายและราคาสูงขึ้นตามไปด้วย เช่นเดียวกับเวลาที่มีการใช้คำว่า  organic บนสินค้าผู้คนก็ยอมจ่ายมากขึ้น sustainable coffee ได้เติบโตขึ้นในตลาดกาแฟและทำเงินไปหลายพันล้านดอลลาร์ ดังนั้นมาตรฐานทางสังคมสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจแบบไหนที่บอกได้ว่านี่คือ “sustainable coffee”

ภายใต้หัวข้อ “sustainable coffee”

กาแฟออร์แกนิคที่ผ่านการรับรอง

ทั่วโลกนั้นมีมาตรฐานที่แตกต่างกันไป แต่ organic farm  โดยทั่วๆไปนั้นจะเน้นไปที่การหมุนเวียนทรัพยากรเพื่อส่งเสริมความสมดุลของระบบนิเวศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ  องค์กรที่ควบคุมผลิตภัณฑ์ organic อาจมีการจำกัดในเรื่องของการใช้สารกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยบางชนิดในการทำฟาร์ม โดยทั่วไปแล้วอาหาร organic จะไม่ใช้รังสีในขั้นตอนการผลิต จะไม่ใช้ตัวทำละลายในอุตสาหกรรมหรือใส่วัตถุเจือปนอาหารสังเคราะห์เลยครับ


https://theexoticbean.com/product/thailand-peaberry/

หากคุณต้องการหากาแฟออร์แกนิคที่ผ่านการรับรองอย่างที่น่าเชื่อถือและจัดว่าเป็น “the World’s Most Sustainable Coffee” ลองดูกาแฟ organic ของ Paradise Mountain บริษัทนี้ทุ่มเทให้กับหลักการของ sustainable coffee และได้รับรางวัลสำหรับการทำงานหนักของพวกเขา กาแฟ Peaberry ของพวกเขาเพิ่งได้รับรางวัล “best new coffee” ในงานแสดงสินค้า Coffee Fest 2018 นอกจากนี้ Paradise Mountain ยังได้รับการรับรอง USDA Organic อีกด้วยครับ

Fairtrade Coffee 

Fairtrade เป็นองค์กรที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนาได้รับเงื่อนไขทางการค้าที่ดีขึ้น พันธมิตรขององกรณ์จะสามารถส่งออกกาแฟในราคาที่สูงขึ้นเพื่อนำไปปรับปรุงมาตรฐานทางสังคมและสิ่งแวดล้อม การเคลื่อนไหวนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อที่จะส่งเสริมความเป็นธรรมในการซื้อขายระหว่างประเทศ  ความร่วมมือผ่านการเจรจาความโปร่งใสและความเคารพ ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยเสนอเงื่อนไขการซื้อขายที่ดีกว่าและรักษาสิทธิของผู้ผลิตและคนงานตามขอบชายแดนในประเทศกำลังพัฒนา Fairtrade มีพื้นฐานมาจากความเชื่อหลักสามประการดังนี้ครับ

1. ผู้ผลิตมีอำนาจในการสื่อสารกับผู้บริโภคโดยตรง

2. แนวทางการค้าโลกที่มีอยู่ในปัจจุบันส่งเสริมการกระจายความมั่งคั่งที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างประเทศ

3. การซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนาในราคาที่ยุติธรรมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนมากกว่าการบริจาคเพื่อการกุศลและการช่วยเหลือแบบดั้งเดิม

มีกาแฟหลายๆยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจาก Fairtrade  แต่กาแฟที่ผ่านการรับรองโดย Fairtrade ที่ใหญ่ที่สุดและผู้คนรู้จักมาที่สุดน่าจะเป็นยี่ห้อ “ดอยช้าง” ซึ่งเป็นผู้ส่งออกกาแฟชั้นนำของประเทศที่มียอดขายในต่างประเทศ 137,802,000 บาทในปี 2559  ผมชอบใช้กาแฟดอยช้าง Vienna Roast สำหรับทำกาแฟ cold brew ผมว่ามันรสชาติดีและคุณภาพก็คงที่ด้วยครับ

Rainforest Alliance 

เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่สนับสนุน sustainable coffee

ในการขอการรับรองจาก Rainforest Alliance นั้น ฟาร์มต้องเป็นไปตามมาตรฐานตามแบบเครือข่ายเกษตรยั่งยืน Sustainable Agriculture Network   (SAN) ซึ่งประกอบไปด้วย

1. สนับสนุนระบบนิเวศ

2. ปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพและทางน้ำ

3. อนุรักษ์ป่า

4. ลดการใช้สารเคมี

5. และปกป้องความเป็นอยู่ที่ดีของคนงานและชุมชนท้องถิ่น

พันธมิตรของ Rainforest ไม่ได้รับประกันราคากาแฟอย่างเหมือนกับพันธมิตรของ Fairtrade Certification ซึ่งคนก็วิพากวิจารณ์กันไปถึงข้อเสียนี้แต่บางกลุ่มกลับวิจารณ์ว่าการที่ Rainforest ไม่ประกันราคากาแฟนั้นกลับสร้างแรงจูงใจให้กับเกษตรกรในการผลิตกาแฟให้มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อที่จะได้ราคากาแฟที่ดี ซึ่งต่างจากพันธมิตรของ Fairtrade ที่มีการรับประกันราคากาแฟอยู่แล้วจึงไม่มีแรงจูงใจในการพยายามที่จะผลิตกาแฟให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น

หนึ่งในบริษัท ที่เป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตร Rainforest คือ Nespresso กาแฟแคปซูลซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของกองทัพกาแฟยี่ห้อเนสกาแฟนั่นเองครับ  เมื่อดูผ่านๆแล้วอาจเป็นเรื่องยากสำหรับกาแฟแคปซูลที่จะผ่านมาตรฐานของ Rainforest ในด้าน “ส่วนอนุรักษ์ระบบนิเวศ”  แต่ Nespresso พยายามอย่างมากที่จะเป็น sustainable coffee กาแฟแคปซูลของเขาไม่ใช้พลาสติกแต่เป็นอลูมิเนียมซึ่งสามารถนำมารีไซเคิลได้ นอกจากนี้กากกาแฟที่ใช้แล้วยังถูกนำไปรีไซเคิลและใช้ในโรงไฟฟ้าและปุ๋ยหมัก Nespresso ส่งเสริมให้การนำขยะไปรีไซเคิลเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรตอนเช้าของคุณและวางถังขยะสำหรับรีไซเคิลจำนวนมากทั่วทั้งกรุงเทพ, หัวหิน, พัทยา, ภูเก็ต, หาดใหญ่และเชียงใหม่ด้วยนะครับ

คำศัพท์เจ๋งๆมากมายเหล่านี้มันช่วยได้จริงหรือเปล่า?

การจำแนกประเภทของสินค้าเหล่านี้ใช้เพื่อกำหนดการมีส่วนร่วมของผู้ผลิต (หรือห่วงโซ่อุปทาน) ในการผสมผสานมาตรฐานทางสังคม สิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจต่างๆ กาแฟที่เข้าข่ายประเภทดังกล่าวและที่ได้รับการรับรองหรือตรวจสอบโดยบุคคลที่สามที่ได้รับการรับรองได้รับการเรียกว่า “sustainable coffee” 

ตอนนี้เรารู้ว่าความหมายคร่าวๆของมันแล้ว คำถามต่อมาคือ แล้วองค์กรเหล่านี้บรรลุเป้าหมายที่พวกเขาตั้งไว้หรือไม่?

น่าเสียดายที่ข้อมูลในการสำรวจนั้นไม่ค่อยดีเลยครับ จากรายงานของศูนย์เพื่อการพัฒนาทั่วโลกซึ่งมีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้มา 100 ครั้งจากทศวรรษที่ผ่านมา มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะบอกว่าการรับรองเหล่านั้นมีผลกระทบต่อผู้ปลูกกาแฟหรือไม่  เพราะปัญหาบางอย่างที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีการสำรวจหรือเก็บข้อมูลก่อนที่จะเริ่มโปรแกรมการรับรองต่างๆจากองค์กรเหล่านี้ ไม่มีการตรวจสอบเกษตรกร ไม่มีการติดตามผลเลยครับ ตัวอย่างเช่น มีการซื้ออุปกรณ์ความปลอดภัยเพิ่มขึ้นแต่เราไม่รู้ว่าเกษตรกรได้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้หรือเปล่าและพวกเขามีสุขภาพดีขึ้นหรือไม่?

หากคุณซื้อกาแฟ Fairtrade คุณรู้หรือไม่ว่าเกษตรกรเหล่านั้นได้รับค่าจ้างเพิ่มขึ้นหรือเปล่าซึ่งตามหลักการแล้วการซื้อสินค้าของคุณควรช่วยให้พวกเขาได้รับค่าครองชีพเพิ่มขึ้น แต่เราไม่สามารถรู้ได้เลยครับว่าพวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้นมั้ย

จนกว่าจะมีการตรวจสอบที่ดีขึ้นของฟาร์มทั้งในและนอกโปรแกรมการรับรอง เราอาจจะไม่รู้ว่าการจ่ายเงินในราคาที่สูงกว่านั้นจะช่วยผู้เริ่มต้นห่วงโซ่อุปทานกาแฟได้จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามด้วยการซื้อ “ sustainable coffee” คุณได้ส่งข้อความให้อุตสาหกรรมกาแฟในวงกว้างรู้ว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับ “sustainable coffee”

หลังจากเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรองทั้งหมดเหล่านี้ ผมตื่นตัวมากขึ้นที่จะมองหากาแฟที่แสดงถึงสิ่งที่ผมเชื่อว่าดีที่สุดสำหรับผู้ผลิตและสิ่งแวดล้อมแม้ว่าผมจะรู้ว่ามันช่วยได้แค่ไหนก็ตาม