อยากดื่มกาแฟสดเดี๋ยวนี้ไม่ต้องไปร้านกาแฟแล้ว ชงดื่มเองที่บ้านเลย
วันนี้ผมจะมาพูดถึงการชงกาแฟสดโดยที่ไม่ต้องไปซื้อเครื่องชงเอสเพรสโซแพงๆมาทำนะครับ หลายๆคนอาจจะแย้งผมว่ามีเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซราคาถูกเยอะแยะไปก็ชงได้เหมือนกัน ชงได้เหมือนกันหมดแหละครับแต่ว่ารสชาติที่ออกมามันไม่ได้ยังไง่ล่ะ เพราะว่าอะไรหรอครับ ก็เป็นเพราะว่าเครื่องชงกาแฟราคาถุกๆที่คุณเห็นเค้าขายทั่วไปน่ะแรงดันมันไม่มากพอน่ะสิครับ เอสเพรสโซช็อตที่ได้เลยไม่โอเคน่ะครับ แล้วต้องซื้อเครื่องราคาเท่าไหร่ล่ะ ผมว่าอันนี้ก็แล้วแต่ทุนทรัพย์ของแต่ละคนนะครับ แต่ถ้าจะเอาเครื่องที่ชงแล้วโอเคเนี่ยราคาก็อยู่หลักหมื่นขึ้นไปนะครับ มีคนถามผมต่ออีก แล้วตามร้านกาแฟสดทั่วไปล่ะเห็นเครื่องชงก็อันเล็กนิดเดียวเองเค้าก็ยังเปิดร้านกันได้นี่ ครับเปิดได้ครับแล้วหลายๆที่ก็ขายดีด้วยครับ อันนี้ก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนนะครับ แต่ถ้าถามผมร้านกาแฟที่ใช้เครื่องชงเอสเพรสโซดีๆเนี่ยขายกาแฟแก้วนึงนี่อย่างแพงเลยล่ะครับ ผมก็เลยตัดสินใจชงดื่มเองที่บ้านดีกว่า อร่อยเหมือนกันครับ
ข้อดีของการบรูกาแฟสดเองที่บ้าน
ถ้าคุณชอบกาแฟรสชาติแบบไหนก็ดื่มแบบนั้นครับ สำหรับผมผมคิดว่าถ้าเกิดไปซื้อกาแฟที่ร้านเค้าใช้เมล็ดกาแฟถูกๆหรือเครื่องชงไม่ดีผมก็ขอบายไปชงเองที่บ้านดีกว่าครับ เพราะการชงที่บ้านผมสามารถเลือกเมล็ดกาแฟหรือระดับการของการคั่วได้ตามที่ผมชอบเลย ผมอาจจะอยากใช้ single origin หรือจะเบล็นด์กาแฟหลายๆสายพันธ์ผมก็สามารถเลือกได้ มีการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าการชงกาแฟด้วยมือนั้นนั้นสามารถควบคุมคุณภาพได้ดียิ่งขึ้นและยังได้ประสบการณ์การดื่มกาแฟที่เหนือกว่า สำหรับผมมันสนุกและน่าหลงใหลมากกว่าการกดปุ่มเครื่องแล้วรอดื่มมากเลยล่ะครับ และถ้าใครอ่านแล้วอยากจะลองชงกาแฟด้วยมือเองที่บ้านก็ติดตามอ่านได้เลยครับ เพราะผมกำลังจะบอกเทคนิคในการบรูกาแฟสดเองที่บ้าน 6 แบบ ซึ่งเป็นที่นิยมกันอย่างกว้างขวางเลยครับ ไปดูกันเลยครับ
1.กาแฟดริป Pour Over/Drip
หนึ่งในการบรูกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดและถูกที่สุดด้วย การชงกาแฟดริปนี้ใช้แค่กาน้ำร้อน ดริปเปอร์และก็กระดาษกรองเท่านั้นเองครับ วิธีการก็คือเทน้ำร้อนลงไปบนกาแฟผ่านกระดาษกรอง ตอนแรกเทลงไปนิดเดียวก่อนเพื่อบลูมกาแฟจากนั้นจึงค่อยๆเทน้ำส่วนที่เหลือลงไป การเทน้ำต้องค่อยๆเทอย่างสม่ำเสมอนะครับ หลังจากที่น้ำร้อนผ่านกาแฟและกระดาษกรองแล้วก็จะค่อยๆไหลลงมาในแก้ว เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ ดริปเปอร์นั้นทำมาจากวัสดุหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นพลาสติก แก้ว สเตนเลสหรือเซรามิค รูปร่างของดริปเปอร์และกระดาษกรองนั้นส่งผลต่อรสชาติของกาแฟด้วย ระยะเวลาในการชงก็สำคัญเช่นกันครับ คุณสามารถคลิกอ่านการชงกาแฟดริปแบบละเอียดได้ที่นี่
2. กาแฟสกัดเย็น Cold Brew
การบรูกาแฟโดยการสกัดเย็นเป็นชงกาแฟที่ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับการบรูแบบอื่นๆ สิ่งที่คุณต้องมีก็แค่กาแฟกับน้ำ เหยือกหรือโหลแก้วสำหรับแช่กาแฟ แต่ถ้าอยากให้ดูอลังการหน่อยก็ใช้เครื่องแบบข้างบนก็ได้นะครับ วิธีทำก็ง่ายๆครับเอากาแฟที่คั่วแล้วมาบดหยาบๆ ตรงนี้สำคัญมากนะครับอย่าบดให้ลดเอียดมากนะครับเพราะกาแฟที่ได้จะขม ผมไม่แนะนำให้ซื้อกาแฟที่บดมาจากร้านแล้วเพราะว่าเค้าจะบดมาละเอียดมากส่วนมากใช้สำหรับชงด้วยเครื่องเอสเพรสโซครับ ถ้าคุณไม่มีเครื่องบดสามารถเข้าไปศึกษาเกี่ยวกับเครื่องบดเมล็ดกาแฟได้ที่นี่ครับ โอเคครับเมื่อบดกาแฟแล้วก็แช่ในน้ำอุณภูมิห้องหรือน้ำเย็นก็ได้ครับ ทิ้งไว้ 16-20 ชั่วโมง จากนั้นก็เอามากรองด้วยกระดาษกรองก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ ผมเขียนไว้เกี่ยวกับการทำ cold brew อย่างละเอียดไว้ที่นี่ครับ กาแฟที่ได้จะมีความขมน้อยกว่าการชงด้วยน้ำร้อนครับและจะมีกรด (acidity) น้อยมากกาแฟจึงไม่มีรสเปรี้ยว รสชาติจะกลมกล่อมมาก คุณสามารถดื่มแบบกาแฟดำหรือจะผสมนมก็อร่อยทั้งคู่ครับ กาแฟสกัดเย็นสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้ประมาณ 2 อาทิตย์โดยที่รสาติไม่เปลี่ยนแปลง คุณสามารถบรูเก็บไว้ดื่มได้เลยนะครับ แต่ cold brew จะใช้เวลาบรูนานกว่าการบรูแบบอื่นและต้องเตรียมไว้ล่วงหน้าครับ
3. แอโร่เพรส: Aeropress
เป็นการบรูกาแฟที่ง่ายอีกเช่นกัน ก่อนอื่นคุณต้องมีเครื่องแอโร่เพรสก่อน แล้วก็เมล็ดกาแฟที่บดแล้ว การบดเมล็ดกาแฟสำหรับการชงด้วยเครื่องแอโร่เพรสนั้นจะต้องบดค่อนข้างละเอียดหน่อยประมาณว่าละเอียดกว่าเม็ดทรายแต่ไม่ละเอียดเท่าการบดเพื่อชงเอสเพรสโซครับ คุณก็เริ่มเลยโดยการใส่กาแฟที่บดแล้วลงไปในแท่งภาชนะ จากนั้นก็ใส่น้ำร้อนลงไปด้านบนเล็กน้อยเพื่อบลูมกาแฟ พอกาแฟเริ่มเป็นฟองฟอดๆก็รินน้ำที่เหลือลงไปแล้วใช้ด้ามคนให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพักแล้วเอาด้ามกดค่อยๆกดลงไป เสร็จแล้วครับ ง่ายมากเลยใช่มั้ยครับ ผมใช้เวลาบรูแค่ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้นเอง ผมชอบบรูกาแฟด้วยแอโรเพรสเวลาที่ผมรีบๆน่ะครับ กาแฟที่ได้จะมีบอดี้เข้มข้นเลยครับ ถ้าชอบเข้มมากๆก็ทิ้งแช่น้ำไว้นานหน่อยครับ ลองทำแล้วปรับดูตามความชอบนะครับ
4.มอคค่าพอท: Moka Pot
การบรูกาแฟด้วยมอคค่าพอทจะค่อนข้างยุ่งยากกว่าการบรูกาแฟด้วยวิธีอื่นและก็ต้องใช้การฝึกฝนอยู่พอสมควรครับ เริ่มจากใส่น้ำสะอาดที่ส่วนล่างของ Moka Pot โดยใส่ให้ต่ำกว่าวาล์วเล็กน้อย วางกรวยกาแฟลงไปแล้วใส่กาแฟบดละเอียดให้เต็มกรวยกาแฟแต่อย่ากดนะครับเพราะเดี๋ยวจะขม ขั้นตอนต่อไปก็เกลี่ยให้ทั่วจากนั้นปาดให้เรียบ ประกอบมอคค่าพอทส่วนบนและส่วนล่างเข้าด้วยกันแล้วก็ปิดฝา จากนั้นก็เอาตั้งเตาแก๊สเลยครับ เปิดไฟอ่อนๆแล้วรอ 3 – 4 นาที ก็จะได้กาแฟหอมๆจาก Moka Pot แล้ว ถ้ากาแฟออกมาเร็วเกินไป (ใช้เวลาน้อยกว่า 3 นาที) รสชาติกาแฟที่ได้จะอ่อน สาเหตุมาจาก ตั้งไฟแรงเกินไป หรือ กาแฟบดหยาบเกินไป ถ้ากาแฟออกมาช้าเกินไป (ใช้เวลามากกว่า 4 นาที) รสชาติการแฟที่ได้จะขม สาเหตุมาจาก ตั้งไฟอ่อนเกินไปหรือบดกาแฟละเอียดเกินไป หลังจากเริ่มมีกาแฟออกมาแล้วให้รอจนกาแฟเริ่มไหลน้อยและน้ำเริ่มใสก็ปิดฝาแล้วเอาออกจากเตาแก๊สทันที จากนั้นรีบหยุดความร้อนโดยการเปิดน้ำไหลผ่านเครื่องมอคค่าพอทส่วนล่าง จากนั้นก็เทกาแฟออกมา พร้อมดื่มแล้วครับ คุณสามารถเข้าไปอ่านการชงด้วยมอคค่าพอทแบบละเอียดได้ที่นี่ครับ
5.เฟรนช์เพรส: French Press
นำกาแฟที่บดในขนาดที่หยาบเล็กน้อยลงใส่ลงในเครื่องเฟรนช์เพรส แล้วใส่น้ำร้อนลงไปเล็กน้อย ดูให้แน่ใจว่าน้ำท่วมเมล็ดกาแฟจากนั้นก็รอประมาณ 30-40วินาที ขั้นตอนนี้เราเรียกว่าการบลูมกาแฟ หลังจากครบเวลาที่กำหนดแล้วก็เทน้ำที่เหลือลงไป จากนั้นก็คนให้ทั่วและให้แน่ใจว่าไม่มีกาแฟลอยอยู่ด้านบนของเครื่องชง รอสักพักจากนั้นก็ค่อยๆกดฝาของเฟรนช์เพรสลงช้าๆจนถึงก้นแก้วแล้วก็เทกาแฟที่ได้ใส่แก้วโปรดของคุณก็เป็นอันเสร็จ แล้วอย่าทิ้งกาแฟไว้ในน้ำนานเกินไปนะครับเพราะมันจะสกัดกาแฟต่อทำให้มีรสที่เข้มมากเกินไป คุณสามารถดูวิธีการชงแบบเฟรนช์เพรสแบบละเอียดได้ที่นี่ครับ
6.กาแฟไซฟ่อน: Syphon
การชงกาแฟแบบไซฟ่อนจะใช้เมล็ดกาแฟบดกลางค่อนข้างหยาบจะหยาบกว่าการชงแบบเฟรนช์เพรสนิดหน่อย การชงกาแฟด้วยเครื่องนี้จะค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย เราไปเริ่มกันเลยนะครับ เอาเครื่องชงไซฟ่อนมาจากนั้นก็จุดตะเกียงที่ด้านล่างแล้วเอาไปวางตรงตำแหน่งของกระเปาะแก้ว รอจนน้ำเดือดจากนั้นให้ดันกระเปาะแก้วด้านบนแนบกับกระเปาะด้านล่างให้แน่น น้ำเดือดจะถูกดันขึ้นสู่กระเปาะด้านบนช้าๆ จากนั้นเทกาแฟที่บดไว้ลงไปด้านบน คนให้ทั่วโดยคนไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้กาแฟจมน้ำที่เดือดขึ้นมา กาแฟจะแบ่งได้ 3 ส่วนคือ ฟอง น้ำกาแฟและกาก รอประมาณ 1 นาทีแล้วก็ดับตะเกียง หลังจากที่ดับตะเกียงก็ยังคนกาแฟแต่อีกเล็กน้อยเพื่อให้กากกาแฟมันนอนก้น หลังจากที่ดับตะเกียงแล้วน้ำกาแฟจะค่อยๆไหลลงสู่กระเปาะด้านล่าง การคนกาแฟหลังจากที่ดับตะเกียงแล้วเป็นตัวกำหนดรสชาติกาแฟเลยครับ ถ้าคนอย่างถูกต้องจะได้กาแฟรสชาติดีไม่ขมหรืออ่อนจนเกินไปครับ กาแฟที่สมบูรณ์สังเกตได้จากกากกาแฟที่เหลือตรงกระเปาะด้านบนครับ ถ้ากากกาแฟด้านบนเป็นโค้งสวยงามถือว่าสมบูรณ์ครับ แต่ถ้าเป็นโดมแหลมๆถือว่ายังคนไม่ถูกต้องครับ
เลือกวิธีบรูกาแฟที่ชอบแล้วลุยเลย
เอาล่ะครับหลังจากที่ได้อ่านวิธีที่นิยมในการบรูกาแฟไปแล้ว ผมอธิบายแค่คร่าวๆนะครับถ้าอยากได้วิธีทำหรือวีดีโอสาธิตการทำก็เข้าไปดูได้ตามลิงค์ที่ผมให้ไว้ครับ หรือไปศึกษาการชงกาแฟสดเบื้องต้นก่อนก็ได้ครับว่าต้องมีส่วนสำคัญอะไรในการบรูบ้างนอกเหนือจากกาแฟและน้ำ การบรูกาแฟที่ผมแนะนำไปบางวิธีก็ง่ายใช้เวลาแค่สั้นๆ บางวิธีก็ใช้เวลานานและต้องใช้ศิลปะในการชงอยู่พอสมควร ครั้งแรกที่ผมลองบรูกาแฟด้วยมอคค่าพอทผมก็หัวเสียเล็กน้อยครับแต่หลังจากที่ทำหลายๆครั้งก็รู้เทคนิคครับ คุณลองเลือกดูครับว่าชอบแบบไหน รสชาติของกาแฟที่ได้จากการชงแต่ละแบบค่อนข้างจะต่างกันมากอยู่ครับ ลองหาซืัอกาแฟพวกนี้ตามร้านกาแฟดื่มก่อนดีกว่าแล้วถ้าชอบก็ค่อยซื้อเครื่องไปชงดื่มเองก็ดีครับ ในวิธีการชงทั้งหมดที่ผมแนะนำไปจะใช้ความร้อนในการบรูทั้งหมดยกเว้น cold brew ที่ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องในการบรู ถ้าอยากลองดื่ม cold brew ก็สั่งได้ทางอินเตอร์เน็ตครับแต่การบรูด้วยวิธีอื่นสั่งดื่มทางเน็ตไม่ได้นะครับเพราะกาแฟที่สกัดจากความร้อนจะอยู่ได้ไม่นานครับ ผมจะสั่ง cold brew บ่อยอยู่ครับเพราะผมชอบรสชาติของมันที่สุดครับ แต่มันใช้เวลานานสุดครับต้องเตรียมล่วงหน้าเป็นวันเลย บางทีผมก็ขี้เกียจทำก็เลยสั่งจากในเน็ตมาเลย ผมลองซื้อมาชิมหลายยี่ห้อเลยแต่ผมชอบยี่ห้อนี้ครับ Storm Cold Brew กาแฟของที่นี่รสชาติดีและบรูสดใหม่ทุกวัน ราคาไม่แพงส่งฟรีด้วยครับ
ผมยังไม่ได้เขียนวิธีการชงกาแฟไซฟอนและแอโรเพรสอย่างละเอียด เอาไว้คราวหน้าผมจะเขียนและอัดวิดีโอเอาไว้นะครับ ติดตามกันได้โดยเข้าไปดูวิธีการชงกาแฟได้ที่หัวข้อการชงกาแฟเบื้องต้นครับ ไปล่ะครับ Enjoy!