ความท้าทายของบาริสต้าที่ร้านกาแฟ Starbucks
คุณคงเคยไปต่อคิวซื้อกาแฟตามร้านกาแฟอยู่บ้างใช่มั้ยครับ ร้านกาแฟบางร้านก็มีคนต่อคิวเล็กน้อยบางร้านก็จะมีคนต่อคิวกันจนยาวเหยียดเพื่อรอซื้อกาแฟกันทุกวัน ตัวผมเองก็เคยยืนต่อแถวเพื่อที่จะสั่งกาแฟเหมือนกัน แต่ว่าในฐานะลูกค้าและบาริสต้าความรู้สึกมันช่างต่างกันมากๆครับ เพราะในฐานะลูกค้าของร้านกาแฟระหว่างที่คุณรอกาแฟคุณก็ยืนรอชิวๆไปครับ จะเล่นโทรศัพท์หรือจะคุยกับเพื่อนก็ได้ เมื่อถึงคิวของคุณพนักงานก็เรียกชื่อแล้วคุณก็ไปรับเครื่องดื่ม แต่ในฐานะบาริสต้ามันต่างกันมากครับ ผมเคยเป็นบาริสต้าที่ Starbucks อยู่หลายปีและผมก็ได้ผ่านช่วงวิกฤตมาแล้ว นั่นคือช่วง rush hours ผมยังจำครั้งแรกที่ผมเจอคนมาต่อแถวเพื่อรอซื้อกาแฟกันจนยาวเหยียด ผมอึ้งทำอะไรไม่ถูกอยู่พักนึง หลังจากนั้นก็รวบรวมสติแล้วรีบรับออเดอร์ต่อไป ทุกอย่างมันเร่งรีบมากจนผมแทบไม่มีเวลาพักหายใจ แรกๆผมมือสั่นเลยล่ะและผมก็ต้องคอยให้เพื่อนๆที่นั่นช่วยสอนผมหลายๆอย่าง แต่หลังจากที่ผมทำงานที่ร้าน Starbucks อยู่นานผมก็เริ่มชินครับ ผมทำงานเร็วอย่างไม่น่าเชื่อและบ่อยครั้งที่ผมได้โบนัสเล็กๆน้อยๆจากผู้จัดการเพราะผมเสิร์ฟเครื่องดื่มได้เร็วมากๆ นั่นเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งในร้านเลยครับ
10 สิ่งที่บาริสต้าจาก Starbucks อยากจะบอกคุณเหลือเกิน
และก็มาถึงหัวข้อของบทความนี้นะครับ หลังจากที่ผมทำงานที่ Starbucks มา4 ปี ผมเจอลูกค้ามามากมายหลายประเภท ทั้งลูกค้าที่น่ารักและลูกค้าที่หน้ายักษ์ คุณคงจะขำคำพูดของผมแต่มันเป็นเรื่องจริงครับ ขอบคุณลูกค้าที่นารักนะครับแต่สำหรับลูกค้าที่หน้ายักษ์ผมอยากจะตะโกนดังๆให้คุณได้ฟังสัก 10 อย่าง ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้ผมก็หวังว่าครั้งหน้าที่คุณมาที่ Starbucks เราจะเห็นคุณในแบบที่แตกต่าง ผมไม่ได้ทำงานที่ Starbucks แล้วครับแต่ผมเขียนเพื่อบาริสต้าหลายๆคนที่ทำงานที่นั่นน่ะครับ เค้าจะได้มีความสุขกับงานก็เท่านั้นเอง พร้อมกันรึยังครับ ไปดูกันเลยดีกว่าครับ
1.ช่วยกรุณาสั่งกาแฟให้ถูกออเดอร์หน่อยครับ
นี่ไม่ใช่เพราะว่าผมเคร่งครัดกับวิธีสั่งของ Starbucksหรอกครับ แต่เป็นเพราะว่ามันช่วยให้ผมทำงานได้เร็วมากขึ้นและนั่นก็หมายความว่าคุณก็ได้กาแฟเร็วขึ้นด้วย ผมขอยกตัวอย่างสักหน่อยนะครับ เช่น ถ้าคุณไม่บอกผมก่อนว่าคุณจะเอากาแฟร้อนหรือเย็น เราก็จะหยิบไม่ถูกว่าจะเอาแก้วกาแฟสำหรับกาแฟร้อนหรือกาแฟเย็น เราก็เลยจะเขียนสิ่งที่คุณสั่งลงบนแก้วไม่ได้ เราก็ต้องขัดจังหวะและถามคุณว่าจะเอาร้อนหรือเย็นแล้วก็ให้คุณสั่งอีกรอบ เห็นมั้ยล่ะครับมันเสียเวลาจริงๆครับ ทีนี้เอาใหม่ครับลองสั่งเครื่องดื่มตามออเดอร์นี้นะครับ : กาแฟร้อนหรือเย็น ขนาดของเครื่องดื่ม เอาแบบมีคาเฟอีนหรือไม่มี ใส่เอสเพรสโซ่กี่ช็อต ใส่ไซรัปมั้ยและเยอะแค่ไหน นมชนิดไหน และเอาอะไรเพิ่มอีกมั้ย เช่นเพิ่มคาราเมลรึเปล่า และสุดท้ายคือชนิดของเครื่องดื่มที่คุณจะสั่ง เฮ้อ………เยอะนะครับเนี่ย
2.อย่าโกธกันเลยครับถ้าหากบาริสต้าสะกดชื่อคุณผิด
ขอให้เชื่อผมครับว่าเราพยายามที่จะเขียนให้ถูกกันครับ แต่ชื่อบางคนก็สะกดยากจริงๆครับ บางคนก็ชื่อแปลกแบบที่ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ไอ้ครั้นที่ผมจะถามว่าสะกดยังไงมันก็ได้ครับถ้าไม่ได้มีคนต่อแถวยาวเป็นกิโล ดังนั้นเวลาที่บาริสต้าเขียนผิดก็ใจเย็นๆหน่อยครับ พวกเราไม่ได้ตั้งใจจริงๆครับ
3.หยุดเรียกขนาดของเครื่องดื่มว่า Small Mediumหรือ Large
ที่ Starbucks เราเรียกขนาดของเครื่องดื่มดังนี้ครับ : Short, Tall, Grande, Venti, Trenta เวลาสั่งถ้าคุณเรียกแบบนี้ก็ทำให้เราทำงานได้เร็วขึ้นครับ ขอบคุณล่วงหน้านะครับ
4.การขอคาราเมลเพิ่มมันทำให้งานเราหนักมาขึ้นครับ
มันเรียกว่า “drizzle” มันมีสาเหตุอยู่ครับเพราะว่ารูของขวดมันเล็กครับมันเอาไว้ราดด้านบนเพียงเล็กน้อย ถ้าคุณหวังว่าเราจะไขฝามันออกมาแล้วเทคาราเมลลงไปสัก 2-3 ช้อนโต๊ะนั่นคงจะเป็นไปไม่ได้ครับ สิ่งที่คุณสามารถคาดหวังได้คือเราจะกลอกตาไปมาแบบไม่สบอารมณ์ครับ
5.กาแฟของคุณไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดในโลก
บางครั้งเราทำกาแฟผิดพลาดไปบ้าง บางครั้งเราทำบางอย่างหก แทนที่จะโมโหแล้วถามว่าทำไมถึงนานขนาดนี้ ช่วยหยุดหายใจแล้วสังเกตสักหน่อยว่าเรายุ่งกันจนไฟลนก้นและก็พยายามทำให้ดีที่สุดแล้วครับ และถ้าบางทีเวลาเราทำอะไรหกแล้วก็ลวกมือช่วยถามเราสักนิดครับว่าเราโอเคมั้ย เราเป็นมนุษย์เหมือนกันครับ แล้วนั่นก็ทำให้เกิดข้อ 6 ขึ้นมาครับ
6.อย่าถามว่าเราเป็นหุ่นยนต์หรือเปล่า
เราไม่ใช่หุ่นยนต์ครับ คุณคงไม่เชื่อว่ามีคนถามเราแบบนี้อยู่บ่อยๆครับ เราอาจจะเสิร์ฟกาแฟเป็นพันแก้วต่อวันแต่เรายังเป็นมนุษย์อยู่ครับ
7. ไม่มีอะไรแย่ไปกว่าการชง a non-fat, extra-foamy cappuccino
ที่บอกแบบนี้เพราะว่านมแบบ non-fat ทำโฟมแทบไม่ได้เลยน่ะสิครับ ผมแนะนำให้คุณสั่งเป็นลาเต้ดีกว่าครับ
8. เราชอบความสม่ำเสมอ
เราชอบลูกค้าประจำมากเพราะว่าเค้าจะสั่งเครื่องดื่มเหมือนเดิมทุกวัน และเรารู้ทันทีเมื่อเค้าเดินเข้ามาที่หน้าประตูบางทีเรารู้ตั้งแต่เห็นรถเค้าแล้ว พวกเราก็จะเตรียมเครื่องดื่มให้เค้าทันที และมันก็ดีมากที่ได้เจอลุกค้าที่ยิ้มให้เราทำให้วันนั้นของเราดีขึ้นมามากมายเลยครับ
9. พูด “สวัสดี”
คุณอาจจะเหนื่อยล้าจากงาน คุณอาจจะยังไม่ได้รับคาเฟอีนเลยตั้งแต่เช้า แต่ขอเถอะเวลาที่เราพูดสวัสดีกับคุณและถามว่าเป็นยังไงบ้าง เราจะดีใจมากถ้าคุณจะตอบเราหรืออย่างน้อยทักเรากลับบ้าง มันทำให้การเสิร์ฟกาแฟน่ารื่นรมย์มากขึ้นเลยทีเดียว
10.ถ้าคุณดีกับเราคุณอาจได้ของแถมเล็กน้อยๆจากเรา
เพราะว่าเมื่อคุณเป็นคนดีคุณก็มักจะได้รับสิ่งดีๆกลับ บางทีเราทำกาแฟพลาดไปเช่นบางคนสั่งลาเต้แต่เราดันไปทำมอคค่า ซึ่งโดยปกติเราก็ต้องเททิ้งลงท่อ แต่ถ้าเราชอบคุณเราอาจจะแถมกาแฟแก้วนั้นกับคุณก็ได้