เครื่องจักรกำลังจะเข้ามาครองโลก! หรือว่าแค่จะมาส่งกาแฟ

คุณเคยคิดบ้างมั้ยว่าตอนนี้เราอยู่ในโลกแห่งไซไฟของจริง ? ผมมั่นใจว่าใช่แน่ครับ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าอินเตอร์เน็ตนั้นทำให้ชีวิตมันเป็นอัตโนมัตมากขึ้นทุกวันนี้อินเตอร์เน็ตนั้นเชื่อมต่อกับสิ่งต่างๆรอบตัวเราและรวมถึงตัวเราด้วย บางคนใส่ฟิตบิทหรือใส่เครื่องติดตามการเคลื่นไหวทุกอิริยาบทไม่ว่าจะเดินหรือจะนอน นอกจากนี้ก็ยังมีโปรแกรมจดจำใบหน้าที่แท็กชื่อคนให้อัตโนมัติในเฟซบุ๊ค ไหนจะปฏิทินที่คุณจดการนัดหมายต่างๆที่กูเกิลสามารถเข้าถึงได้อีก และเรื่องล่าสุดสดๆร้อนๆเลยคือตอนนี้เรามีโดรนที่สามารถรู้ได้ว่าคุณต้องการคาเฟอีนหรือเปล่า!

IBM ได้พัฒนาโดรนที่ใช้ซอฟแวร์ในการสังเกตใบหน้าหรือน้ำเสียงและการแท็กบัตรประชาชนอิเล็กโทรนิคส์หรือบลูทูซจากสมาร์ทโฟนของเจ้าของและส่งกาแฟให้กับคนนั้นถึงที่และถูกคนด้วย ซึ่งคุณอาจจะนั่งอยู่ในรถบนจราจรที่ติดขัดและต้องการความกระปี้กระเป่าจากคาเฟอีน ไม่ต้องห่วงเลยครับโดรนจาก IBM จะส่งกาแฟให้คุณถึงที่แน่นอน มันอาจจะฟังแล้วบ้ามากๆแต่คุณคิดถูกแล้วครับว่าภาพรวมของเทคโนโลยี ณ ตอนนี้กำลังจะนำไปสู่ยุคของการส่งของชิ้นเล็กๆไปทั่วโลก

การอ่านใจของโดรน

คุณไม่ต้องใช้โดรนที่ใช้ซอฟแวร์รุ่นล่าสุดเพื่อที่จะรู้ว่าผมต้องการกาแฟหรือเปล่าเพราะผมรู้ตัวผมเอง แต่มันก็น่ามหัศจรรย์มากนั่นแหละที่โดรนของ IBM สามารถบอกได้ว่าคุณต้องการกาแฟก่อนที่คุณจะรู้ตัวซะอีก มันทำอย่างไรน่ะหรอผมจะอธิบายให้ฟัง ฟิตบิทหรือว่านาฬิกาของแอปเปื้ลบนข้อมือคุณจะส่งดาตาที่บอกเกี่ยวกับร่างกายของคุณออกไปในด้านชีวภาพทั้งความดันเลือด การขยายของม่านตา สีหน้าหรือแม้แต่เวลาตื่นนอน จากข้อมูลเหล่านี้ทำให้โดรนสามารถเดาได้ว่าคุณง่วงนอนระดับไหน ซึ่งผลที่มันประมวลออกมามีความแม่นยำมากครับ

บางทีเมื่อคืนคุณหลับไม่ค่อยสนิทและฟิตบิทของคุณจับอาการได้และบวกกับการอ้างอิงเกี่ยวกับการนอนในปฏิทินออนไลน์ของคุณ เช่นถ้าคุณมีประชุมในตอนเช้าและคุณไม่ค่อยได้นอน เจ้าโดรนแสนฉลาดนี้ก็จะโฉบลงมาที่ออฟฟิศของคุณและส่งกาแฟ cold brew ที่เย็นชื่นใจเพื่อให้คุณพร้อมสำหรับการประชุมสำคัญที่คุณพลาดไม่ได้

ผมคิดว่าจริงๆไอ้โดรนส่งกาแฟนี่มันเป็นเทคโนโลยีที่ค่อนข้างงี่เง่าอยู่แต่ผมก็เชื่อว่าบริษัท IBM ก็รู้แหละว่ามันไร้สาระแต่เค้าก็แค่ต้องการให้คนพูดถึงเยอะๆไง อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีนี้อาจมีการประยุกต์ไปใช้กับสิ่งอื่นๆที่จนสามารถเปลี่ยนโลกได้เลย อเมซอนและบริษัทพาณิชย์อิเล็กโทรนิกส์ก็ได้พัฒนาและใกล้จะใช้โดรนในการส่งสินค้าแล้ว ลองจินตนาการดูสิครับว่าถ้ามีการใช้โดรนส่วนตัวที่บินผ่านท้องฟ้าเพื่อที่จะทำธุระปะปังเพื่อส่งสินค้า หรือว่าการติดตามเด็กๆ การสะกดรอยสามีภรรยา และอีกร้อยกว่าเรื่อง โอ้ กำลังเข้าไปสู่รายการ Black Mirror แล้ว แต่ช่างมันเถอะเอาเป็นว่า ณ ตอนนี้ความจริงที่ว่ามีหุ่นยนต์ที่บินไปในท้องฟ้าซึ่งสามารถ ” อ่านใจคนได้” และส่งกาแฟให้คุณในฝูงชนมากมายมันก็เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นไม่ใช่หรอ