รีวิวร้านกาแฟ Kaffeehaus /บ้านน้ำเคียงดิน

ผมไปทานข้าวกับครอบครัวที่ร้านบ้านน้ำเคียงดินเมื่อวันก่อนแล้วสังเกตเห็นร้านเล็กๆตรงทางเข้าร้านอาหาร (จริงๆมันก็ไม่ได้เล็กแต่ถ้าเทียบกับร้านบ้านน้ำเคียงดินมันก็เลยดูเล็กไปเลย) ตอนแรกผมนึกว่ามันเป็นร้านกิ๊ฟท์ช้อป แต่พอผมไปส่องดูทางหน้าต่างก็เห็นการตกแต่งร้านที่น่าสนใจและก็เห็นขนมหวานในชั้น ผมก็เลยรู้ว่ามันไม่ใช่ร้านกิ๊ฟท์ช้อป

เมนูร้านกาแฟ Kaffeehaus

รีวิวร้านกาแฟ Kaffeehaus

เมนูร้านกาแฟ Kaffeehaus

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นผมก็กลับไปที่ร้านนั้นอีกครั้ง การตกแต่งร้าน Kaffeehaus เป็นธีมแบบยุคศตวรรษที่ 19 แบบ Vienna coffee shop (ร้านกาแฟในเวียนนา) ที่ให้ความรู้สึกสง่างามซึ่งแมทช์กันกับราคาที่ค่อนข้างแพงของกาแฟที่นี่ มีคนเขียนรีวิวเกี่ยวกับร้าน Kaffeehaus เยอะอยู่ ซึ่งส่วนมากก็เน้นเป็นภาพถ่ายสวยๆของร้าน แล้วก็เขียนรีวิวประมาณ2-3 ประโยค แต่ว่าสำหรับผมผมมารีวิวร้านกาแฟเพื่อเขียนเกี่ยวกับกาแฟครับ ก็จะมีเนื้อหาค่อนข้างเยอะหน่อยแต่ผมก็จะใส่รูปเอาใจแฟนๆที่ชอบถ่ายรูปไปด้วยแล้วกันนะครับ

รีวิวร้านกาแฟ
Café Griendsteidl in Vienna, 1897 (image: wikimedia commons)

Vienna coffee houses เป็นสถานที่ที่เป็นแหล่งพบปะพูดคุยของพวกศิลปิน นักเขียนและพวกปัญญาชน ผมให้คำจำกัดความของร้าน “Kaffeehaus” ว่า “สง่างาม” ซึ่งไม่ได้แปลว่าน่าดึงดูดหรือผ่อนคลาย ในทางตรงกันข้ามคือมันให้ความรู้สึกเป็นทางการมากครับ ผมว่าร้าน Kaffeehaus เหมาะกับการพาใครสักคนที่เราอยากให้เค้าประทับใจหรือผู้ใหญ่ที่เราให้การนับถือมานั่งดื่มกาแฟหรือมานั่งทานอาหารด้วยกัน แต่ผมไม่รู้สึกว่าผมสามารถมานั่งชิวแล้วเอาคอมพิวเตอร์ออกมาทำงานสักสองสามชั่วโมงเหมือนกับร้านกาแฟร้านอื่นๆได้ พนักงานดีครับคอยยืนมองว่าแขกต้องการอะไรแต่ก็ไม่ค่อยยิ้มแย้มเท่าไหร่ รายละเอียดของการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์หรูหรามากมีความน่าสนใจ ด้านหน้าร้านตกแต่งออกไปในทางยุโรป บรรยากาศเหมาะกับการดื่มเบียร์หรือค็อคเทลกับเพื่อนสนิทมากกว่าการจิบกาแฟยามบ่ายนะผมว่า


รีวิวร้านกาแฟ Kaffeehaus


ก่อนที่ผมจะมาเข้าเรื่องกาแฟ ผมอยากบอกวิธีในการรีวิวร้านกาแฟของผมก่อนนะครับ ผมจะเลือกร้านกาแฟที่จะรีวิวแล้วก็ไปนั่งที่ร้านกับแฟนและลูกชายผม เรานั่งแล้วก็สั่งกาแฟเหมือนลูกค้าปกติ ผมจะสั่งกาแฟที่เป็นการไฮไลท์ตัวกาแฟจริงๆ อย่างพวก เอสเพรสโซ กาแฟดริป อเมริกาโน โคลด์บรู ผมจะไม่สั่งพวกกาแฟที่หวานๆที่จะทำให้เสียรสชาติของกาแฟ ผมไม่ได้บอกพนักงานเสริฟว่าผมจะมารีวิว ผมไม่เคยขอกาแฟฟรีหรือการต้อนรับที่พิเศษ ร้านกาแฟไม่ได้จ่ายเงินผมให้มาถ่ายรูปสวยๆและเขียนอะไรดีๆเกี่ยวกับร้าน หลังจากผมได้ชิมกาแฟเรียบร้อยแล้วผมถึงจะบอกบาริสต้าว่าผมมารีวิวกาแฟ ผมก็เริ่มถามเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟและการชงเพื่อจะได้ข้อมูลมากขึ้นเกี่ยวกับความรู้ของพนักงานและดูว่าเค้าใส่ใจในการชงกาแฟมั้ย แต่การรีวิวนี้มันก็เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผม ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกาแฟรึเปล่า? เปล่าครับ ผมแค่ชอบดื่มกาแฟก็เท่านั้นเอง ผมก็เลยศึกษาเกี่ยวกับกาแฟมาไม่มากก็น้อยครับ เวลาผมรีวิวผมก็พยายามที่จะซื่อสัตย์กับสิ่งที่ผมรู้สึกเพื่อให้รีวิวของผมมีความหมายกับคนที่อยากรู้จริงๆแต่ผมก็พยายามไม่เขียนรีวิวโดยใช้คำพูดที่ทำให้เจ้าของร้านเค้าโกรธนะครับ ก็จะเลี่ยงๆคำให้ดูโอเคหน่อย เอาล่ะครับไปต่อที่เรื่องกาแฟของร้านนี้กันเลยนะครับ


Cold Brew

เมนูของที่ร้านนี้มี cold brew ด้วยครับ และเค้าก็มีเครื่องชงขนาดใหญ่ตั้งอยู่หลังเคาน์เตอร์ด้วย ผมก็เลยว่าต้องลองสักแก้วแล้วล่ะครับ ราคาของ cold brew อยู่ที่ 130 บาทซึ่งเป็นราคาประมาณ Starbucks ครับ cold brew เสริฟมาอย่างสวยงามด้วยส้มที่สไลด์เป็นชิ้นในแก้วและก็มีไซรัปวางข้างๆ พอผมยกแก้วขึ้นมาที่ปากก็ได้กลิ่นของส้มที่ค่อนข้างชัดเจนและยังมีกลิ่นอื่นอีกที่ผมก็ไม่รู้ว่ากลิ่นอะไร คล้ายๆว่าจะเป็นกลิ่นชะเอม ผมจิบไปคำนึงแล้วก็รู้สึกถึงความผิดหวังขึ้นมาทันที cold brew เป็นกาแฟที่ผมชอบมากที่สุดตัวหนึ่งเลย ผมจะวิจารณ์มากหน่อยละกัน สิ่งที่ผมค้นหาใน cold brew คือความสะอาดและความสมูทของกาแฟซึ่งเป็นไฮไลท์ของมันเลย กาแฟcold brew ของที่นี่รสชาติเหมือนกับวิสกี้ บางคนอาจจะรู้สึกว่ารสชาตินี้มันน่าสนใจแต่ผมว่ามันแทบจะไม่สามารถเรียกได้ว่ากาแฟเลยครับ อาจจะฟังดูแรงเกินไปแต่มันจริงครับ รสชาติของกาแฟถูกบดบังด้วยรสของส้มและน้ำเชื่อม ภรรยาผมชิมแล้วบอกว่ามันรสชาติเหมือนกับอะไรนะ….เอ่อม……ผมไม่เคยได้ยินหรอก อ้อ…”โอเลี้ยง” ครับ

แต่อย่างไรก็ดี มันก็มีความเป็นมาเกี่ยวกับ cold brew รสชาติฝาดๆแก้วนี้ครับ บาริสต้าผู้ซึ่งมีความรู้เกี่ยวกับกาแฟและสามารถตอบคำถามผมเกี่ยวกับเมล็ดกาแฟ การคั่วเมล็ดกาแฟ แหล่งกำเนิดและวิธีการได้ดีทีเดียว เธอบอกว่า cold brew แก้วนี้เป็นการทดลองเมล็ดกาแฟแบบใหม่ซึ่งเป็นแก้วแรกที่เค้าเปลี่ยนไปใช้เมล็ดแบบอื่น โอ้! โชคดีจริงๆเลยผม เธอถามผมและขอให้ผมตอบอย่างจริงใจว่ารสชาติกาแฟเป็นอย่างไร ผมบอกเธอไปว่ามันไม่ใช่สไตล์ที่ผมชอบ ผมไม่อยากดื่มกาแฟที่รสชาติเหมือนวิสกี้แต่คนอื่นอาจจะชอบก็ได้ สิ่งที่ผมชอบเกี่ยวกับร้านนี้คือเค้าพยายามที่จะลองอะไรใหม่ๆเพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์ที่ดี แต่ผมขอบอกเลยว่าครั้งนี้เป็นความผิดพลาดครับ

Hot Latte

รีวิวร้านกาแฟ ลาเต้
Latte 120฿

ไปต่อกันด้วยกาแฟลาเต้ร้อน ซึ่งผมว่าก็ไม่ได้ดีไปกว่า cold brew แก้วที่แล้วมากนัก เอสเพรสโซ่แก้วนี้ได้มากจากการผสมของเมล็ดกาแฟจาก เอธิโอเปีย บราซิล และปาปัวนิวกินี ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่ดีทีเดียวแต่ว่าผลที่ออกมาคือมันได้เป็นลาเต้ที่มีความเป็นกรดที่รสชาติประหลาด การชิมกาแฟของผมตอนนี้ขยายไปถึงการที่จะชื่นชอบกาแฟคั่วอ่อนซึ่งให้ความเป็นกรดมาก แต่ลาเต้แก้วนี้มันไม่ใช่แบบนั้น มันให้ความเปรี้ยวแหลมแทนที่จะเป็นความเข้มข้นและความนุ่มนวลแบบครีมๆตามแบบฉบับของลาเต้

รวมๆแล้ว Kaffeehaus นำเสนอความรู้สึกแบบสง่างามของร้านกาแฟ/ร้านอาหาร ด้วยพนักงานที่มีความรู้ทางด้านกาแฟ คุณภาพของเมล็ดกาแฟและมีความพยายามที่จะปรับปรุงสิ่งต่างๆให้ดีขึ้น แต่ผลที่ออกมามันเฉยๆสำหรับผมมาก ร้านกาแฟที่มีความพิเศษนี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะนำเสนอกาแฟที่ดีออกมา ผมหวังว่าผมจะไปที่นั่นอีกครั้งและครั้งหน้ามันจะพลิกโฉมทำให้ผมทึ่งไปเลย