อากาศร้อนๆอย่างนี้ทำให้ผมอยากดื่มกาแฟเย็นๆขึ้นมาเลยครับ ไม่ใช่กาแฟเย็นที่ขายทั่วไปหรอกครับแต่เป็นกาแฟสกัดเย็นต่างหาก กาแฟเย็นที่มีขายตามร้านกาแฟทั่วไปส่วนมากมักใส่น้ำตาลซะหวานจนเลี่ยนเลยครับแล้วก็ขมด้วยครับ ผมก็ไม่ชอบรสชาติของมันเลยดังนั้นผมก็เลยเริ่มชง cold brew(กาแฟสกัดเย็น) ดื่มเองครับ ครั้งแรกที่ผมลองทำผมทึ่งในความกลมกล่อมที่เต็มไปด้วยรสชาติเต็มๆของมันมากครับ มันเป็นกาแฟที่สะอาดจริงๆครับไม่มีกากกาแฟหลงเหลืออยู่ในแก้วเลย คุณสามารถหา cold brew ดื่มได้ตามร้านกาแฟทั่วไปแต่ร้านกาแฟเล็กๆที่อยู่ขอบกรุงเทพอย่างบ้านผมส่วนมากเค้าไม่ขายกันครับ แต่ถ้าหากคุณจะอยู่ในเชียงใหม่แม้จะเป็นร้านกาแฟเล็กๆผมแน่ใจว่ามันมี cold brew ให้ดื่มกันทุกร้านแน่นอน เพราะเชียงใหม่เป็นศูนย์กลางร้านกาแฟของเมืองไทยนี่ครับ
Cold Brew vs กาแฟเย็น
ก่อนอื่นเลยคุณต้องเข้าใจว่า cold brew นั้นไม่เหมือนกับกาแฟเย็น กาแฟเย็นจะเป็นการชงกาแฟด้วยน้ำร้อนแล้วเอาน้ำแข็งมาใส่ แต่ว่า cold brew นั้นใช้น้ำอุณหภูมิห้องในการทำ การเอาน้ำแข็งใส่กาแฟที่ชงด้วยน้ำร้อนนั้นอาจจะได้รสชาติที่ดีแต่โดยส่วนมากมันมักจะขมนะ การสกัดกาแฟอย่างช้าๆด้วยน้ำอุณหภูมิห้องในการทำ cold brew นั้นจะให้รสที่เข้มข้นแต่ไม่ขมเลยและไม่มีกรดหลงเหลือเลยจึงทำให้กาแฟไม่มีรสเปรี้ยวเหมือนกับการชงกาแฟด้วยน้ำร้อน
นี่คือการทำกาแฟ cold brew คร่าวๆนะครับ มีเครื่องทำ cold brew มากมายเลยทีเดียวแต่วันนี้ผมจะมาสอนการชง cold brew แบบเบสิคครับ
การทำ cold brew ปริมาณ 500 มิลลิลิตร ที่บ้าน
สิ่งที่ต้องเตรียม
1. เหยือกน้ำที่มีฝาปิด (หรือที่ชงกาแฟสกัดเย็น)
2. ที่กรองกากกาแฟ
3. เครื่องบดเมล็ดกาแฟ
4. เมล็ดกาแฟ
ผมแนะนำให้ใช้เมล็ดกาแฟที่ราคากลางๆที่รสชาติดีหน่อย ไม่จำเป็นต้องซื้อกาแฟ Finca El Injerto Coffee ที่ราคาสูงถึง 15,000 ต่อ450 กรัมนะครับ และก็อย่าใช้กาแฟที่ถูกที่สุดด้วยเพราะ cold brew ของคุณจะมีรสชาติแบบถูกๆเหมือนกันครับ ดังนั้นก็เลือกเมล็ดกาแฟที่มีราคากลางๆนะครับแล้วจะดีเอง การทำ cold brew เมล็ดกาแฟจะถูกสกัดออกมาแค่รสชาติและจะไม่มีกรดหลงเหลืออยู่เลย cold brew ไม่ช่วยดึงรสชาติและกลิ่นของแหล่งกำเนิดที่เป็นธรรมชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกาแฟคั่วอ่อน ดังนั้นคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องใช้กาแฟคั่วอ่อนครับ จริงๆแล้วเมล็ดกาแฟแบบคั่วเข้มจับคู่ได้ดีอย่างมากกับ cold brewนะ โดยเฉพาะเวลาคุณผสมกับนมหรือไอศครีม ปกติผมก็ใช้กาแฟแบบคั่วเข้มทำครับ แต่ตอนนี้ผมอยากทำการลดลองแบบอื่นๆดูบ้าง จริงๆคุณจะใช้กาแฟคั่วแบบไหนก็ได้ครับ ซึ่งแต่ละแบบจะก็จะได้รสชาติเฉพาะตัวของมันครับ
ขั้นตอนที่ 1
กาแฟบด 1 กรัมต่อน้ำ 8 กรัม
เราจะทำกาแฟ cold brew ในปริมาณ 500 มิลลิลิตรแบบเข้มข้น แต่เท่าที่ผมเคยทำมาไม่รู้กี่รอบแล้วเนี่ย ผมพบว่าเราต้องทำในปริมาณ 600 มิลลิลิตรถึงจะได้กาแฟออกมากเท่ากับ 500 มิลลิลิตร ซึ่งตามอัตราส่วนที่ผมให้ไว้คือ เมล็ดกาแฟบด 1 กรัมต่อ น้ำ 8 มิลลิลิตร ดังนั้นถ้าต้องการทำกาแฟ 600 มิลิลิตรจะเท่ากับ 600/8 เท่ากับต้องเตรียมเมล็ดกาแฟบด 75 กรัม ส่วนการบดกาแฟให้บดขนาดใหญ่ตามรูปด้านล่าง คุณไม่ควรบดกาแฟให้เล็กเพราะจะทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติขมเกิน
ขั้นตอนที่ 2
นำกาแฟที่ตวงไว้ 75 กรัมใส่ลงไปในเหยือกที่มีฝาปิด นำเหยือกมาไว้บนตาชั่งจากนั้นใส่น้ำ 600 กรัม (อย่าลืมคำนวณเผื่อน้ำหนักของเหยือกด้วยนะครับ) คนให้ทั่วจนแน่ใจว่าเมล็ดกาแฟทุกส่วนอยู่ในน้ำ จากนั้นก็ปิดฝาเหยือกและตั้งทิ้งไว้ 18-24 ชั่วโมงถึงจะเอาออกมาดื่มได้นะครับ
ขั้นตอนที่ 3 – กรองกาแฟ
หลังจากผ่านไป 18 ชั่วโมงให้เปิดฝาเหยือกแล้วเทกาแฟที่ได้ลงบนที่กรองเพื่อกรองเศษกาแฟใหญ่ๆ จากนั้นก็เทผ่านกระดาษกรองหรือตาข่ายเล็กมากๆเพื่อกรองกากกาแฟส่วนที่เหลืออีกทีนึง
ขั้นตอนที่ 4
การเสริฟ Cold brew ให้รสชาติดีที่สุดก็ต้องเสริฟแบบเย็น ดังนั้นให้เอาไปแช่ในตู้เย็นก่อนดื่มนะครับ แต่ปกติผมอดใจไม่ไหวก็เลยจบด้วยการดื่มซัก 1 แก้วก่อนเลยครับ สำหรับการดื่มนั้นก็ต้องเอามาผสมกับน้ำโดยใช้ cold brew 50% น้ำเย็น 50% จากนั้นก็ใส่น้ำแข็ง ดื่มแบบกาแฟดำน่ะครับแต่เย็น ลองจิบดูก่อนนะครับแล้วให้สังเกตรสชาติว่ามันนุ่มนวลและสะอาดหรือเปล่า มันควรจะเป็นอย่างนั้น คุณสามารถปรับอัตราส่วนให้เหมาะกับการดื่มของคุณหรือจะใส่นมลงไปแบบลาเต้ก็อร่อยครับ ผมดื่มแบบผสมกับน้ำเปล่า 50/50 และเสริฟกับน้ำแข็งเยอะๆ หรือถ้าคุณอยากจะเอากาแฟ cold brew มาทำขนมหรืออาหารก็ได้นะครับ แต่ต้องใช้สูตรเข้มข้นนะครับ ที่ผมเคยทำก็จะเป็น ท็อฟฟี่เค้ก บราวนี่ เฟรนช์โทสท์ แพนเค้กเบค่อน หรือถ้าอยากมีเครื่องดื่มเก๋ๆแบบไม่เหมือนใครสำหรับงานปาร์ตี้อย่างเช่น วานิลลาลาเต้ S,mores iced coffee สมูทตี้ออมเบรย์ ลองคลิ๊กดูได้เลยครับ
อากาศร้อนๆอย่างนี้ทำ cold brew ดื่มบ่อยๆ!
อันที่ผมแนะนำเป็นแบบเบสิคนะครับ หลังจากที่คุณทดลองทำแล้วคุณจะสังเกตว่ามันมีอะไรหลายๆอย่างที่คุณสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีขึ้น คุณสามารถทำให้มันดูซับซ้อนมากขึ้นโดยการใช้เทคนิคการบลูมกับน้ำร้อนโดยการเทน้ำร้อนลงไปให้ท่วมกาแฟประมาณ 30-45 วินาทีแล้วจากนั้นก็ใส่น้ำเย็นลงไป หรือคุณอาจจะลองเอาเหยือกที่เตรียม cold brew ไว้ใส่ในตู้เย็นก็ได้ หรือเอาเหยือกตั้งไว้ตรงที่มีแดดส่องถึงประมาณ 2ถึง3 ชม./วัน คุณสามาถเปลี่ยนอัตราส่วนระหว่างกาแฟกับน้ำได้ หรือจะเลือกการคั่วเมล็ดกาแฟที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ที่ยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้นคือคุณสามารถใส่กานพลูลงไปหรืออะไรอื่นๆก็ได้ที่คุณชอบ แค่สนุกกับการทดลองใหม่ๆไปเรื่อยๆครับ
cold brew นั้นเป็นอะไรที่วิเศษมากเพราะว่ามันยากที่จะออกมาแย่ cold brew เป็นกาแฟที่ให้รสชาติดีมากตัวหนึ่ง ภรรยาผมไม่เค้าไม่ชอบกินกาแฟโดยไม่ใส่น้ำตาลแต่พอเค้าลอง cold brew ที่ผมทำเค้าไม่ใส่น้ำตาลเลยและเค้าก็ชอบมันมากกว่าการชงวิธีอื่นเลย แต่เค้าไม่เคยทำเองนะเพราะผมทำให้เค้าดื่มตลอดเค้าอ้างว่าเค้ากลัวทำแล้วไม่อร่อยแต่ผมว่าเค้าขี้เกียจทำมากกว่า จริงๆเคล็ดลับก็แค่ต้องเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่ดีๆเท่านั้นเองครับ cold brew มีความยากอยู่อย่างนึงคือถ้าคุณอยากดื่มมันแต่ไม่ได้เตรียมไว้ล่วงหน้าคุณก็อดดื่มแน่นอนครับ ที่คุณต้องทำคือวางแผนล่วงหน้าไว้ก่อนคุณจะได้ไม่ขาดกาแฟ cold brew ดีๆในบ้าน หรือเอาแบบง่ายสุดๆก็สั่งเอาออนไลน์ก็ได้ครับ คลิก 5 ร้านขายกาแฟ cold brew ที่คอกาแฟห้ามพลาด รับรองไม่ผิดหวังแน่