เมื่อคุณบดกาแฟที่บ้าน คุณไม่เพียงแต่สร้างบรรยากาศของบ้านให้อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมๆ แต่การบดกาแฟยังเป็นการเริ่มต้นการชงกาแฟที่สดที่สุดที่คุณสามารถทำได้เลยทีเดียว การบดกาแฟด้วย hand grinder (เครื่องบดกาแฟที่ใช้มือหมุน) ยังให้ความรู้สึกถึงสมัยเก่าที่ยังไม่มีเทคโนโลยีมากมายที่ผู้คนใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ การบดเมล็ดกาแฟเองเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งเลยครับเพราะว่าการบดกาแฟที่ถูกต้องจะการันตีได้ว่าคุณจะได้กาแฟที่ดีแน่นอน แต่การเลือกเครื่องบดกาแฟที่ใช่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะมีตัวเลือกอยู่เยอะมาก ผมจะเลือกมารีวิวให้คุณดูว่าอันไหนดีอันไหนไม่ดีและกันนะครับ แล้วคุณลองดูว่าเครื่องไหนที่เหมาะสำหรับคุณ เราไปเริ่มกันเลยครับ
(Chop vs Crush) สับหรือบด
เครื่องบดนั้นมีอยู่ 2 ประเภทซึ่งใช้วิธีในการบดที่แตกต่างกัน เราเรียกชื่อเครื่องบดทั้งสองประเภทดังนี้ 1. Blade grinder 2.Burr grinder มันค่อนข้างชัดว่า blade grinder นั้นจะเป็นการสไลด์และตัดกาแฟเป็นชิ้นๆ ส่วน burr grinder นั้นจะใช้วิธีการบดครับ ความแตกต่างเล็กน้อยนี้มีผลต่อรสชาติของกาแฟค่อนข้างมากทีเดียวนะครับ
ความสำคัญของเครื่องบดกาแฟ
เมื่อคุณต้องการให้กาแฟของคุณมีรสชาติอร่อยเหมือนกันทุกแก้ว คุณต้องการเครื่องบดที่จะทำให้เมล็ดกาแฟนั้นมีขนาดเท่ากันทุกครั้ง คุณไม่ต้องการให้เมล็ดที่บดแล้วใหญ่หรือเป็นผงในคราวเดียวกัน การชงกาแฟแต่ละแบบจะใช้เมล็ดกาแฟที่บดในขนาดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการบดหยาบหรือบดละเอียดนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น ในการทำกาแฟสกัดเย็น (cold brew) ต้องใช้เมล็ดกาแฟบดหยาบเพราะการทำ cold brew ไม่ต้องใช้ความร้อนแต่ต้องใช้เวลาในการทำมาก ถ้าคุณใช้เมล็ดกาแฟที่บดเป็นผงแบบที่ใช้สำหรับกาแฟตุรกี (Turkish coffee) กาแฟ cold brewของคุณจะดื่มไม่ได้เลยครับ และผมก็เกลียดการเทกาแฟทิ้งซะด้วย อย่างไรก็ตามความสม่ำเสมอและการบดที่ถูกประเภทนั้นจำเป็นสำหรับกาแฟดีๆแน่นอนครับ
Blade grinder
Blade grinder นั้นใช้ใบมีดที่เป็นโลหะเพื่อตัดกาแฟออกเป็นชิ้นๆ แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคอนโทรลขนาดของเมล็ดกาแฟที่บดแล้วว่าจะออกมาเป็นอย่างไรเพราะเมล็ดบางอันโดนใบมีดบ่อยครั้งในขณะที่บางอันไม่โดนเลย แต่ถ้าคุณมีที่บดแบบ Blade grinder อยู่แล้วไม่ไปโยนทิ้งนะครับเพราะผมมีเทคนิคอยู่นิดหน่อยที่จะช่วยคุณทำให้การบดนั้นดีขึ้นกว่าเดิม
1.จับเวลาในการบดเมล็ดกาแฟ ถ้าคุณต้องการบดหยาบสำหรับชงเฟรนช์เพรสลองดู 10 วินาที และถ้ามันออกมาละเอียดเกินไปหรือหยาบเกินไปก็ลองปรับเวลาให้สั้นหรือยาวกว่าเดิมดูนะครับ
2.เขย่าเครื่องขณะที่คุณกำลังบดอยู่ทั้งนี้เพื่อให้เมล็ดทุกอันโดนใบมีดเท่าๆกัน
3.ลองกดสวิตส์แบบเป็นจังหวะคือกดแล้วหยุดแล้วกดใหม่ แล้วลองดูว่าต้องทำกี่ครั้งถึงจะได้ขนาดที่คุณต้องการ
ถึงแม้ว่า blade grinder จะไม่ใช่เครื่องบดแบบที่ดีที่สุดแต่ก็ยังดีกว่าเมล็ดที่บดสำเร็จรูปมาแล้วจากร้าน และ blade grinder ก็มีราคาค่อนข้างถูกเช่นอันนี้ราคา 990 บาท
ลองสังเกตุดูนะครับว่าทางด้านซ้ายเมล็ดกาแฟที่ผ่านการบดจะมีขนาดที่เท่าๆกันเทียบกับทางด้านขวาเมล็ดกาแฟมีขนาดที่ต่างขนาดกันมากตั้งแต่เป็นชิ้นใหญ่ๆจนถึงละเอียดเป็นผง เอาล่ะพูดมายาวมากเราไปดูเครื่องบดที่ใช้ได้จริงๆดีกว่า
Burr grinder
Burr grinder ใช้สำหรับบดกาแฟที่ได้มาตรฐานโรงงานซึ่งแตกต่างจาก Blade grinder โดยสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นร้านคอฟฟี่ช้อปหรือผู้ที่รักการชงกาแฟที่บ้านไม่ควรใช้ที่บดอย่าง blade grinder เลยครับ Burr grinder ใช้โลหะหรือเซรามิคตรงส่วนประกอบที่เป็นร่องบากเพื่อจะบดเมล็ดกาแฟ burr grinder มีอยู่ 2 ประเภทคือแบบ conical และแบบ flat (ตามรูปภาพด้านล่าง) ทั้งสองแบบนี้ง่ายต่อการกำหนดขนาดของการบด มันมีการออกแบบที่เรียบง่ายเมื่อกาแฟบดได้ตามขนาดที่ต้องการแล้วมันก็จะร่วงลงมาตรงที่พัก
Burr grinder ราคาจะแพงกว่า blade grinder ราคาของมันเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2500 บาทและแพงได้ถึง 44,000 บาทเลยทีเดียว แต่คุณไม่ต้องซื้อราคาแพงขนาดนั้นถ้าคุณจะชงกาแฟกินเองที่บ้าน เครื่องบดที่ดูแข็งแรงในราคากลางๆอย่างตัวนี้ Minimex MCG3 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีครับ
ถ้าเครื่องบดแบบ burr grinder อยู่ในเรทราคาที่คุณซื้อได้และคุณชอบซื้อพวกเครื่องใช้ในครัวก็ซื้อซักอันเถอะครับ รับรองว่าคุณจะยกระดับการชงกาแฟของคุณขึ้นมาได้อย่างมากเลยล่ะครับ แต่ถ้าคุณยังไม่อยากจะซื้อเครื่องใช้ในราคาแพงๆล่ะก็ผมก็มีแบบอื่นที่พอจะใช้แทนกันได้ครับ
Hand grinder
แค่ชื่อก็มีความหมายที่แน่นอนอยู่แล้วครับว่าเป็นเครื่องบดที่ใช้มือบดครับ ไม่ได้เอามือมาบี้ๆนะครับแต่เป็นการเอามือมาหมุนที่เครื่องเหมือนกบเหลาดินสอแบบที่มีแท่นหมุน ผมชอบวิธีนี้เพราะว่ามันโลเทคดีครับแล้วคุณก็สามารถพกมันไปที่ไหนก็ได้เวลาคุณไปเที่ยวตามต่างจังหวัด ผมคิดถึงการแคมป์ปิ้งหรือไม่ก็พวกโร้ดทริปน่ะครับ
hand grinder เหมือนกับ burr grinder แหละครับต่างกันที่ใช้มือกับใช้ไฟฟ้าเท่านั้นเอง มันเพอร์เฟคสำหรับการบดในจำนวนน้อยๆแต่มันไม่เหมาะที่จะบดไว้สำหรับเพื่อนๆที่ออฟฟิศหรือในงานปาร์ตี้นะครับเพราะมันบดได้ทีละนิด ผมชอบ hand grinder เพราะว่ามันเป็นอะไรที่ซิมเปิ้ลดีเหมาะกับการเริ่มต้นของวันสบายๆ เห็นเมล็ดกาแฟที่ค่อยๆบดแล้วตกลงที่ถาดรองทีละนิดๆด้วยมือของผมเองมันดูเจ๋งดีเลยล่ะ ขั้นตอนนี้มันดูมีสเน่ห์และน่าหลงใหลสำหรับคนรักกาแฟเลยทีเดียวและก็นำไปชงแล้วได้รสชาติกาแฟที่ดีด้วย
วิธีบดเมล็ดกาแฟให้ได้ขนาดที่คุณต้องการด้วย hand grinder คุณก็แค่หมุนสกรูขึ้นและลงเท่านั้นเอง ดูเหมือนเจ้าเครื่องนี้จะวิเศษมากทั้งดีทั้งถูกแต่มันก็มีข้อเสียครับ ผมจะยกตัวอย่างให้ดูนะ สมมุติว่าคุณปรับระดับเอาไว้เพื่อที่จะบดแบบหยาบๆสำหรับชงเฟรนช์เพรสและคุณก็ชอบขนาดของการบดเท่านี้แล้ว แต่วันนี้คุณอยากชงกาแฟดริปก็ต้องปรับสกรูเพื่อให้ได้การบดที่เล็กลง ทีนี้ตอนที่คุณจะกลับไปชงเฟรนช์เพรสคุณก็ต้องหมุนกลับมาที่เดิมแต่มันค่อนข้างยากครับเพราะมันไม่ได้มีตัวล็อกให้ คุณก็ต้องกะๆเอาว่าคุณหมุนสกรูไว้ตรงไหนแล้วค่อยๆบดไปทีละนิดและปรับไปเรื่อยๆครับ แต่เมื่อคุณได้ขนาดที่ต้องการแล้วเจ้าเครื่องนี้มันจะบดเมล็ดทุกเม็ดได้ขนาดที่เท่ากันเลยครับข้อดีอีกข้อหนึ่งของ hand grinder คือมันราคาถูกครับ ผมใช้อันที่ราคาแค่ 220 บาท ก็บดกาแฟได้ดีครับ หรือลงทุนในที่บดกาแฟเฟืองเหล็กราคาก็จะเริ่มต้นที่ 1,500 บาท
เพียงแค่คุณมีกาแฟ เครื่องบดและน้ำคุณก็ชงกาแฟอร่อยๆที่บ้านได้แล้วครับ
ข้อเสนอแนะ
ถ้าคุณพอจะลงทุนกับเครื่องบดได้และมีที่วางในครัวผมแนะนำให้ซื้อแบบไฟฟ้านะ ผมไม่ได้แนะนำให้ซื้ออันที่ราคา 40,000 บาทนะครับอันนั้นมันก็เว่อร์ไป ผมเห็นหลายๆคนแนะนำให้ใช้เครื่องนี้ Baratza Encore Conical Burr Coffee Grinder ผมไม่ได้ซื้อเครื่องนี้มาใช้หรอกครับแต่มีคนแนะนำเครื่องนี้กันมากที่อเมริกาครับ
ผมไม่แนะนำให้ซื้อ blade grinder นะครับ ถ้าจะซื้อผมว่าซื้อ hand grinder ดีกว่าครับ ผมใช้ hand grinder อยู่บ่อยๆครับแต่บางทีถ้าผมอยากจะดื่ม Turkish coffee หรือชงกาแฟแบบอื่นๆที่ต้องบดกาแฟให้ละเอียดมากๆผมก็จะใช้แบบที่เป็นไฟฟ้าครับ
ผมใช้ Hario Slim Mill มันก็บดได้ดีเหมือนกับ hand grinder อันอื่นแหละครับแต่ผมชอบดีไซน์ของมันที่มันมีถ้วยรองล็อคติดกับตัวบดด้านบน พอบดเสร็จผมก็หมุนฝาออกและก็ตักกาแฟจากถ้วยได้เลย ง่ายกว่าอันที่ผมใช้ที่ราคา 399 บาท อันนั้นจะที่มีลิ้นชักเล็กๆ มันไม่ค่อยสะดวกครับแต่ผมก็ชอบมันนะเพราะผมว่าเครื่องบดเล็กๆที่ทำจากไม้แบบนั้นน่ะมันน่ารักดี และก็อันนี้ครับ Bialetti อันนี้จะแพงกว่านิดหน่อยแต่ที่รองมันเป็นแก้วครับ
ผมอยากจะลอง hand grinder อันนี้ที่ใช้มือหมุนแบบแนวตั้งแบบภาพข้างบนนี้ดูบ้างว่ามันจะให้ความรู้สึกอย่างไรเวลาหมุน ผมไม่เคยใช้เครื่องบดที่แพงกว่า 3,000 บาทเลย ผมแค่จินตนาการไม่ออกว่ามันจะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างจากเครื่องที่ราคาถูกกว่ากันมากถึงขนาดนั้นได้
สุดท้ายนี้คุณลองดูว่าวันๆนึงคุณต้องบดเมล็ดกาแฟถึง 12 ถ้วยต่อวันรึเปล่าหรือแค่ 2-3 ถ้วย แล้วคุณก็จะรู้เองว่าเครื่องบดกาแฟแบบไหนเหมาะสำหรับคุณครับ